EXPERIENCE : ประสบการณ์
THINK BETWEEN THE LINES : คิดระหว่างบรรทัด
1
2
ฉันเคยเจอประสบการณ์นี้มากับตัวบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสองสามเดือนก่อน คราที่รุ่นน้องคนหนึ่ง วานให้ฉันไปช่วยติวหนังสือก่อนสอบย่อยให้ แล้วฉันเผลอบอกรหัสนักศึกษาออกไป น้องคนนั้นถึงกับขำกลิ้ง พยายามบอกฉันด้วยเสียงกลั้วหัวเราะว่า ‘เอ่อ...ตอนพี่อยู่ปีหนึ่ง ผมเพิ่งเข้าม.หนึ่งเองครับ เอิ๊กๆๆ’
ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าทำไมน้องถึงต้องขำขนาดนั้น เพราะแม้แต่ฉันเอง ก็ไม่เคยคิดจินตนาการมาก่อนว่า จะใช้เวลาการเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยนานขนาดนี้กว่าจะเรียนจบ (สักที)
จะอย่างไรก็ตาม ฉันออกจะภูมิใจเสียด้วยซ้ำเมื่อได้บอกกับใครต่อใครว่า ‘ฉันยังเรียนไม่จบ’ แถมไม่ใคร่สาธยายต่อด้วย ว่าทำไมถึงยังเรียนไม่ยอมจบ ... ฉันเชื่อว่ามนุษย์แทบทุกคนมีความใฝ่รู้อยู่ในตัว ดังนั้น เหตุผลว่าทำไมฉันยังเรียนไม่ยอมจบ คงเป็นเรื่องที่พวกเขาสรรหาคำตอบด้วยตนเองได้ไม่ยากนักหรอก
สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ ฉันโคตรเห็นด้วยกับข้อความสั้นๆ ในหนังสือเล่มหนึ่งของ ‘วินทร์ เลียววารินทร์’ ที่ว่า
“คุณค่าของการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
อาจอยู่ที่การใช้ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัย”
อาจอยู่ที่การใช้ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัย”
3
ฉันเริ่มก่อกิเลสด้วยการไปทำพาสปอร์ตมาไว้เป็นเบื้องต้นก่อน เอาไว้เผื่อมีโครงการหรือทุนดีๆ ฉันจะได้สมัครง่ายๆ ไม่ต้องเอาเหตุผลเรื่องยังไม่มีพาสปอร์ตมาอ้าง ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ฉันก็บินลัดฟ้าไปประเทศจีนในฐานะหนึ่งในนักศึกษาโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม แม้จะเป็นเวลาแค่สองสัปดาห์ แต่ก็เป็นการเปิดประสบการณ์ต่างประเทศสุดประทับใจของฉันเลยทีเดียว ถัดมาอีกสองสามเดือน ฉันก็เดินทางไปเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยน ณ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย เป็นเวลาสองภาคเรียน กลับมาเป็นนักศึกษาปีสี่ได้อีกแค่ปีเดียว ก่อนออกไปฝึกสอน คราวนี้ได้โอกาสดี บินข้ามทวีปไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่อเมริกาถึงสองเดือน
หลายๆคนมักชมถึงคุณแม่ฉันว่า “คุณแม่เก่งจัง กล้าดีจัง ที่อนุญาตให้ลูกสาวไปอยู่ไกลๆ และคราวละนานๆ” เปล่าหรอก บางส่วนเป็นแผนการณ์ของฉันเอง ฉันไม่เคยบอกที่บ้านเลย เวลาจะสมัครโครงการอะไร เอาไว้ค่อยบอกทีเดียวตอนผลประกาศออกมาแล้วว่าฉันได้รับคัดเลือก ทีนี้มันก็จะมีเวลาแค่ไม่กี่วันให้ตัดสินใจยืนยันสิทธิ์ ถึงตอนนั้น ก็เหมือนกับการมัดมือชกดีๆ นี่เอง ไม่ต้องขออนุญาตแล้วล่ะ แค่แจ้งเพื่อทราบ พร้อมกับบอกคุณแม่อ้อนๆว่า “นะ นะ น๊า... อุตส่าห์สอบได้ ได้ไปต่างประเทศฟรีๆ ดีจะตายชัก ต้องคอนเฟิร์มภายในวันนี้น๊า... ไม่งั้นเสียโอกาส เสียดายแย่” แค่นั้นแหละ คุณแม่ก็เซย์เยสแล้ว
บางครั้ง คำบางคำของบางคน มันก็อาจบั่นทอนโอกาสของเราออกไปก่อนที่เราจะได้เดินทางไปคว้าโอกาสนั้นด้วยซ้ำ ฉันเห็นหลายๆคน มีความสามารถมากพอ แต่ก็ไม่กล้าสมัครเพราะคิดว่า “ถึงได้ไป ที่บ้านก็ไม่ให้ไปหรอก” นั่นเป็นแค่การบั่นทอนจากคนอื่น มันไม่เลวร้ายมากเท่ากับการที่เราบั่นทอนตัวเองด้วยเหตุผลพื้นๆ ที่ว่า “ไม่สมัครดีกว่า ฉันไม่เก่งพอ คงไม่ได้รับเลือกหรอก” ฉันอยากประกาศไว้ตรงนี้เลยว่า “คนที่มีสิทธิ์ตัดสินว่าคุณได้หรือไม่ได้ คือคณะกรรมการ ไม่ใช่ตัวคุณเอง ดังนั้น เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว ก็สมัครไปเลย อย่ารอช้า ได้หรือไม่ได้มันเป็นอีกเรื่องนึง”
ชีวิตในต่างประเทศไม่ได้สวยงามเหมือนในฝัน ฉันต้องปรับตัวเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในหลายๆ ด้าน ทว่าอุปสรรคมากมายที่ต้องฟันฝ่ากลับก่อร่างสร้างประสบการณ์มากมาย ฉันดีใจที่ไม่ได้แค่เติบโตขึ้นด้วยกาลเวลา แต่เลขอายุที่เพิ่มขึ้นได้นำพาวุฒิภาวะมาพร้อมๆกัน แม้มันจะไม่มากนัก แต่อย่างน้อยที่สุด มันก็ทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่า ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญสำหรับเราเสมอ จากที่เมื่อก่อนเคยเป็นเด็กค่อนข้างเอาแต่ใจตามประสาลูกคนเล็ก พอต้องใช้ชีวิตอยู่ในที่ๆ ไม่มีใครคอยตามใจเรา และต้องดิ้นรนฝ่าฟันทุกอย่างด้วยตนเอง ความยากลำบากมันทำให้เรารู้ซึ้งว่า ไม่มีใครรักเราและหวังดีกับเราเท่ากับคนที่บ้าน และท้ายที่สุดแล้ว ระยะเวลาสองสัปดาห์ในจีน สองภาคเรียนในมาเลเซีย และสองเดือนที่อเมริกา ทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่า
“เราเดินทางออกไป ไม่ใช่แค่เพื่อเรียนรู้โลกกว้าง แต่เพื่อที่จะรู้จักตัวเองด้วย”
ENGLISH BETWEEN THE LINES : ภาษาอังกฤษระหว่างบรรทัด
Don’t forget to say ‘CONGRATULATIONS’ to me.
I’ve already graduated after almost seven years of being a university student.
By the way I really proud of my two weeks in China,
my two semesters in Malaysia and my two months in the States before my graduation.”
“อย่าลืมแสดงความยินดีกะหนูนะคะ
ในที่สุดหนูก็เรียนจบแล้วจร้า... หลังจากเป็นนักศึกษามหา’ลัยมาตั้งเกือบเจ็ดปีแน่ะ
แต่จะยังไงก็เห๊อะ หนูโคตรภูมิใจกับสองสัปดาห์ในจีน
สองเทอมในมาเลเซีย แล้วก็สองเดือนในอเมริกาชะมัดเลย”
I’ve already graduated after almost seven years of being a university student.
By the way I really proud of my two weeks in China,
my two semesters in Malaysia and my two months in the States before my graduation.”
“อย่าลืมแสดงความยินดีกะหนูนะคะ
ในที่สุดหนูก็เรียนจบแล้วจร้า... หลังจากเป็นนักศึกษามหา’ลัยมาตั้งเกือบเจ็ดปีแน่ะ
แต่จะยังไงก็เห๊อะ หนูโคตรภูมิใจกับสองสัปดาห์ในจีน
สองเทอมในมาเลเซีย แล้วก็สองเดือนในอเมริกาชะมัดเลย”
- Congratulations เป็นคำที่เอาไว้กล่าวแสดงความยินดีค่ะ ไม่จำเป็นต้องเนื่องในโอกาสจบการศึกษาก็ได้ค่ะ ขอแค่อย่าลืมเติม –s ต่อท้ายเป็นพอ
- Graduate เป็นได้ทั้งคำนามและกริยา ถ้าเป็นคำนาม หมายถึง บัณฑิต หรือผู้สำเร็จการศึกษา ส่วนถ้าเป็นกริยา จะหมายถึง สำเร็จการศึกษา ส่วน graduation เป็นคำนาม หมายถึง การสำเร็จการศึกษา
- By the way เป็นสำนวนที่มีความหมายเก๋ๆ ว่า อนึ่ง หรือ อีกอย่างหนึ่ง หรือที่ฝรั่งเค้าชอบพิมพ์กันย่อๆในแชทว่า BTW นั่นเองค่ะ
- The States เป็นชื่อเล่นของประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ USA นั้นเองค่ะ ห้ามลืมเติม –s ต่อท้ายเหมือนกันค่ะ เพราะประเทศนี้มีรัฐหลายๆรัฐ ที่รวมกันขึ้นมาเป็นประเทศค่ะ
- Experience เป็นได้ทั้งคำนามและกริยาเช่นเดียวกันค่ะ ถ้าเป็นคำนาม หมายถึง ประสบการณ์, ความชำนาญ, ความเชี่ยวชาญ, ความรู้จากประสบการณ์ ส่วนถ้าเป็นกริยา หมายถึง มีประสบการณ์, ได้รับประสบการณ์, ประสบกับ, พบกับ นั่นเองค่ะ เติม -d ต่อท้ายไปอีกหนึ่งตัว จะกลายเป็นคำคุณศัพท์ นั่นก็คือ experienced หมายถึง มีประสบการณ์, จัดเจน, ฉลาด, เชี่ยวชาญ หรือชำนาญ ค่ะ
STORY BY : ตีกุฮ์ บือแน
7 comments:
เป็นบทความที่ดีมากเลยครับ...
อ่านเเล้วสนุก ใช้สำนวนการเขียนได้ดีมากครับ
ขอบคุณมากๆค่า สำหรับคำคอมเมนต์ เด๋วพี่จะพัฒนางานเขียนต่อๆไปนะคะ
ชอบครับ อ่านบล็อกซูนาทีไรอมยิ้มทุกที
รู้แผนล่ะ ว่าเวลาจะสมัครทุนอะไรอย่าเพิ่งบอกที่บ้าน อิอิ
ขอบคุณสำหรับการบอกเล่าประสบการณ์ดีดี
ขอชื่นชม สำนวนการเขียน อ่านแล้วน่าดึงดูด
แล้วมาต่อเรื่องใหม่ไวๆน่ะครับ รออ่านอยู่
เพิ่งเจอบล็อกของพี่หนูนาค่า นี่อาย UGRAD นะคะ
เห็นด้วยมากเลยค่ะ ประสบการณ์สอนอะไรเรามากมายกว่าที่คิดจริงๆ เป็นนักศึกษาทั้งทีต้องใช้สิทธิความเป็นนักศึกษาให้คุ้มเนอะ
Al-Qamar ... โพสต์เรื่องใหม่ เด๋วจะแจ้งเรื่อยๆจ๊ะ ชอบแลกเปลี่ยนเรียนรู้อยู่แล้ว อิอิ
Ai ... จำอายได้แน่นอนจ๊ะ น้องสาวสุดสวย ผมตรง หน้ามน อิอิ ไว้ตามอ่านไปเรื่อยๆน๊าาา ขอบคุณกำลังใจจากทุกคนค่ะ
เยี่ยมมากเลยพี่สาว ชื่นชมค่ะ ^^เริศ
Post a Comment