EXCELLENCE : ยอดเยี่ยมไร้เทียมทาน
THINK BETWEEN THE LINES : คิดระหว่างบรรทัด
1
พูดถึงคำว่า Excellence ก็ให้นึกถึงเรื่องของเพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่ง ฉันลองเอาเรื่องที่เขาเล่าให้ฉันฟัง มาสรุปเล่นๆเป็นบทสนทนาสั้นๆ ได้ดังนี้
- น้องบ่าว : พี่บ่าว ขอแลเกรดพี่บ่าวทีต่ะ
- พี่บ่าว : นี่แหละ มาแลต่ะ ที่หน้าจอคอมนิ หวางนี้เค้าไม่ต้องรับสมุดพก แลกันทางคอมนี่แหละ
- น้องบ่าว : แล้วไซ E มากแรงล่ะนั้น ... E นี้มันแปลว่าไหรหล่าวล่ะพี่บ่าว
- พี่บ่าว : อ๋อ... E นี่เหอ ไม่รู้ไหรเสียแล้วน้องบ่าว นี่มันไม่ได้มาง่ายๆนะไอ้น้อง E นี่หมายถึง Excellence แปลว่า หรอย แปลว่า เก่ง สุดยอดไหรพันนั้นแหละ
ฉันไม่รู้เหมือนกันว่า บทสนทนานี้มีที่มาเริ่มแรกและที่ไปในตอนจบว่าอย่างไร ท้ายสุดแล้วน้องชายจะเชื่อพี่ชายหรือไม่ แต่ที่รู้แน่ๆ พี่บ่าว-น้องบ่าวก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่บ่าวคนนี้เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของฉันที่เป็นคนเล่าเรื่องนี้นี่เอง ทีแรกฉันกะว่าจะปลอบแล้วก็ให้กำลังใจมันเสียหน่อย แต่มันกลับไม่เศร้าที่ตัวเองได้เกรดน้อย แถมยังเล่าน้องชายอย่างภูมิอกภูมิใจได้อย่างนี้ ก็ถือว่าหมดห่วง
2
Excellence is never an accident.
ความเป็นเลิศมิใช่เรื่องบังเอิญอย่างเด็ดขาด
ความเป็นเลิศมิใช่เรื่องบังเอิญอย่างเด็ดขาด
จากหนังสือ ‘WORDS’
หนังสือรวมคำคมโดย วรากรณ์ สามโกเศศ
หนังสือรวมคำคมโดย วรากรณ์ สามโกเศศ
อยากบอกที่มานิดหนึ่งว่า หนังสือ ‘WORDS’ เล่มนี้ เป็นหนังสือที่ได้เป็นเจ้าของเมื่อไม่นานมา จากงานมหกรรมหนังสือ ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และถ้าใครเคยดูภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องกังฟูแพนด้า ภาคแรก คงยังจำคำกล่าวของปรมาจารย์ใหญ่ สำนักกังฟู ที่ว่าไว้ว่า ‘เรื่องบังเอิญไม่มีจริง’ ถ้าเป็นงั้น ฉันก็จะบอกตัวเองต่อว่า มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกที่ฉันไปเชียงใหม่ในช่วงเดียวกับที่มีงานมหกรรมหนังสือ และมีเพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ชี้ชวนฉันไปเดินเล่นในงาน
เอ่อ...จริงๆก็ไม่แค่เดินเล่นๆหรอก รู้สึกตัวอีกที กระเป๋าตังค์เบาหวิวแถมมีถุงใส่หนังสือพะรุงพะรังถืออยู่ในมือแทน
ร้อยทั้งร้อยของชีวประวัติบุคคลสำคัญ วีรบุรุษ หรือวีรสตรีไม่ว่าจะมาจากแห่งหนใดก็ตาม ต่างมีเบื้องหลังอันตรากตรำก่อนจะได้ซึ่งความสำเร็จกันทั้งสิ้น ทั้งๆที่คนไทยเรียนประวัติศาสตร์กันมาเยอะแยะมากมาย เรียนรู้เบื้องหลังความสำเร็จนับพันนับหมื่น ชมบทสัมภาษณ์คนดัง และอ่านหนังสือฮาวทูเป็นตั้งๆ ทว่านิสัยหนักไม่เอาเบาไม่สู้ ฟุ้งเฟ้อและบ้าวัตถุนิยมของคนไทยกลับทำให้ฉัน (ซึ่งก็เป็นคนไทยเหมือนกัน) แอบเป็นงงอยู่เสมอๆ
คนไทยอยากรวยแต่ไม่อยากเหนื่อย พ่อแม่ในเจเนอเรชั่นนี้ไม่ว่ารวยหรือจน ก็เลี้ยงลูกให้ติดหรูและอยู่สบายกันแทบทั้งนั้น กรุณาเถอะค่ะ คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย (รวมถึงว่าที่คุณพ่อคุณแม่ด้วย) กรุณาอย่าเป็นอย่างที่กล่าวไว้ในบทกวี ‘พ่อแม่รังแกฉัน’ ของพระยาอุปกิตศิลปสาร กรุณาอย่าทำร้ายลูกของคุณด้วยความรักของคุณเองเลย
คาบแรกของฉันในการสอนนักเรียนห้องหนึ่ง ฉันให้นักเรียนบอกข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเรียนการสอนในวิชาดังกล่าวเพื่อการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ไม่รู้จะขำหรือจะเศร้าดีที่นักเรียนสรุปออกมาเป็นคำขวัญว่า ‘ปล่อยก่อน สอนเลท เกรดสี่’
หรือพ่อแม่จะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งไหมที่ทำให้นักเรียนไทยไม่ขยัน ไม่ตั้งใจเรียน และขี้เกียจอ่านหนังสือ ทั้งยังไม่พอใจเวลาครูให้ทำแบบฝึกหัดหรือทำการบ้าน
หรือจะโทษคำกล่าวในศิลาจารึกที่พ่อขุนรามคำแหงท่านบันทึกเอาไว้ว่า ‘ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว’ กันดี ที่ทำให้คนไทยเข้าใจกันไปเองว่าเมืองไทยนี้ดี มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์
โถ...พ่อเจ้าประคุณ แม่เจ้าประคุณ นั่นมันตั้งแต่สมัยสุโขทัยโน่นแล้ว
ถ้าไม่ไปจับปลา - ก็ไม่มีปลาให้กิน
ไม่ปลูกข้าว - ก็ไม่มีข้าวที่ไหนให้เก็บเกี่ยว
แล้วถ้าไม่ทำงาน – ไม่มีเงิน – ก็ไม่มีเงินซื้อทั้งข้าว - ไม่มีเงินซื้อทั้งปลา
ฉันอยากจะบอกดังๆ เหลือเกินว่า โลกนี้ไม่มีอะไรที่หรอกได้มาโดยง่ายดาย หากเราไม่ใช้ความพยายาม
ความเก่งกาจไม่ว่าทักษะใดก็ตาม ต่างต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ แรงกาย ความพยายาม ความขยัน ความอดทน และไม่ย่อท้อทั้งสิ้น ถ้าจะมีใครสักคนมาบอกคุณว่า เขาได้อะไรมาแบบโดยไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรแม้แต่นิดเดียวเลย เป็นไปได้มากถึงมากที่สุดว่า ‘เขาตอแหล!!!’
คาบแรกของฉันในการสอนนักเรียนห้องหนึ่ง ฉันให้นักเรียนบอกข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเรียนการสอนในวิชาดังกล่าวเพื่อการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ไม่รู้จะขำหรือจะเศร้าดีที่นักเรียนสรุปออกมาเป็นคำขวัญว่า ‘ปล่อยก่อน สอนเลท เกรดสี่’
หรือพ่อแม่จะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งไหมที่ทำให้นักเรียนไทยไม่ขยัน ไม่ตั้งใจเรียน และขี้เกียจอ่านหนังสือ ทั้งยังไม่พอใจเวลาครูให้ทำแบบฝึกหัดหรือทำการบ้าน
หรือจะโทษคำกล่าวในศิลาจารึกที่พ่อขุนรามคำแหงท่านบันทึกเอาไว้ว่า ‘ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว’ กันดี ที่ทำให้คนไทยเข้าใจกันไปเองว่าเมืองไทยนี้ดี มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์
โถ...พ่อเจ้าประคุณ แม่เจ้าประคุณ นั่นมันตั้งแต่สมัยสุโขทัยโน่นแล้ว
ถ้าไม่ไปจับปลา - ก็ไม่มีปลาให้กิน
ไม่ปลูกข้าว - ก็ไม่มีข้าวที่ไหนให้เก็บเกี่ยว
แล้วถ้าไม่ทำงาน – ไม่มีเงิน – ก็ไม่มีเงินซื้อทั้งข้าว - ไม่มีเงินซื้อทั้งปลา
ฉันอยากจะบอกดังๆ เหลือเกินว่า โลกนี้ไม่มีอะไรที่หรอกได้มาโดยง่ายดาย หากเราไม่ใช้ความพยายาม
ความเก่งกาจไม่ว่าทักษะใดก็ตาม ต่างต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ แรงกาย ความพยายาม ความขยัน ความอดทน และไม่ย่อท้อทั้งสิ้น ถ้าจะมีใครสักคนมาบอกคุณว่า เขาได้อะไรมาแบบโดยไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรแม้แต่นิดเดียวเลย เป็นไปได้มากถึงมากที่สุดว่า ‘เขาตอแหล!!!’
3
โธมัส อัลวา เอดิสัน บุคคลแรกที่จดสิทธิบัตรในการประดิษฐ์หลอดไฟ ผู้ประดิษฐ์อุปกรณ์ที่สำคัญต่างๆ มากมายจนได้ฉายา ‘พ่อมดแห่งเมนโลกพาร์ก’ กล่าวไว้อย่างน่าฟังว่า
“Genius is 1% inspiration, 99% perspiration.”
“ความเป็นอัจฉริยะมีที่มาจาก 1% ของพรสวรรค์และแรงบันดาลใจ
อีก 99% ที่เหลือคือหยาดเหงื่อและความพยายาม”
“ความเป็นอัจฉริยะมีที่มาจาก 1% ของพรสวรรค์และแรงบันดาลใจ
อีก 99% ที่เหลือคือหยาดเหงื่อและความพยายาม”
ENGLISH BETWEEN THE LINES : ภาษาอังกฤษระหว่างบรรทัด
- Excellence เป็นคำนาม ส่วน Excellent เป็นคำคุณศัพท์ เอาไว้ใช้ขยายคำนามค่ะ
- There are no accidents. เป็นคำกล่าวภาคภาษาอังกฤษที่อาจารย์เต่าพร่ำบอก ในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องกังฟูแพนด้า ภาคแรก หมายความว่า เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
- ต่อให้อีกนิดแบบเก๋ๆ ว่า Everything happens for a reason! อย่างน้อยก็ต้องมีซักเหตุผลแหละ ที่ทำให้อะไรๆมันเกิดขึ้น เพื่ออะไรสักอย่างด้วยนะ
- There are no accidents. Everything happens for a reason!เรื่องบังเอิญไม่มีจริง ต้องมีเหตุผลเพื่ออะไรสักอย่างสิ ที่ทำให้อะไรๆมันบังเกิด
- Accident นอกจากจะแปลว่า อุบัติเหตุแล้ว ยังแปลว่า เรื่องบังเอิญได้อีกด้วยนะคะ
- I met him by accident. มีความหมายว่า ฉันเจอเขาโดยบังเอิญ อีกสองประโยคที่จะกล่าวต่อไปนี้ มีความหมายเดียวกันค่ะ I met him by chance. / I ran into him.
- ขอจบแบบกรุ้มกริ่มๆนิดนึงนะคะ
I haven’t loved you by accident.
ที่ฉันรักเธอมาจนวันนี้น่ะ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะจ๊ะ มันเป็นความตั้งใจล้วนๆ
>อิอิ<
ที่ฉันรักเธอมาจนวันนี้น่ะ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะจ๊ะ มันเป็นความตั้งใจล้วนๆ
>อิอิ<
STORY BY : ตีกุฮ์ บือแน