Saturday, January 26, 2013

EAST – WEST, HOME’S BEST. : ที่ไหนๆ ก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา
THINK BETWEEN THE LINES : คิดระหว่างบรรทัด

                       1
อาหารของแม่ไม่เคยใส่ผงชูรส
แต่มันอร่อยล้ำกว่าจานไหนๆ
คงเพราะแม่เติมรักลงไปในทุกจานที่แม่ปรุง
...
คิดถึงรสมือแม่ คิดถึงฝีมือพี่สาว
วันหนึ่ง หนูจะกลับไปทานนะคะ
...
หนูรู้ว่าเราอาจไม่ได้อยู่ใกล้กันในทุกช่วงของชีวิต
และจากวันนั้นจนถึงวันนี้
แม้ว่าหนูจะออกมาจากท้องแม่ห่างไกลแค่ไหน
หนูรู้ว่า มีบางอย่างที่เชื่อมเราไว้
รักเราไม่ได้ลดลงไปตามระยะทางหรอก แม่จ๋า
...
ห้า สิงหา ห้าห้า
ตื่นมาตอนเช้า ห้าห้าห้าไม่ออกอีกแล้ว
คิดถึงคนที่บ้าน แม้ตอนนี้เค้าจะไม่ได้อยู่ที่บ้าน
รัก ณ แม่จ๋า

2

        เดือนรอมฎอนที่ผ่านมา ความสุขหนึ่งของฉันคือการที่ฉันได้มีโอกาสเข้าครัวทำกับข้าวทานเอง เอาจริงๆ จะให้เรียกว่าเข้าครัวคงไม่ถูกนัก ด้วยเหตุว่าพื้นที่ห้องในหอพักนักศึกษาแคบชนิดที่ว่าไม่สามารถแบ่งซอยเป็นห้องย่อยๆ ได้อีก การมีห้องครัวที่เป็นรูปธรรมจึงหมดสิทธิ์ เรียกว่ามุมทำครัวคงจะเหมาะกว่า และแน่นอนว่า การเข้าครัวทำกับข้าวของฉันจึงเป็นแค่การลุกขึ้นจากโต๊ะญี่ปุ่นที่ใช้เป็นโต๊ะทำงาน เดินไปเปิดตู้เย็น หยิบเอาเครื่องปรุง แล้วเอามาปรุงอาหารง่ายๆ ด้วยกระทะไฟฟ้าเท่านั้น
        พอฉันโพสต์ภาพอาหารที่ทำลงในเฟสบุ๊คเท่านั้นแหละ กระแสตอบรับก็ทยอยกันเข้ามาเรื่อยๆ หลายคนก็แซวกันไปหลายอย่าง บางคนก็แซวว่า ดูหน้าแล้วไม่น่าทำกับข้าวเป็น บางคนก็แซวว่า จะเตรียมตัวเป็นแม่บ้านใครกันหนอ สำหรับคนที่รู้ว่าฉันไม่มีบุคคลอันเป็น ‘ว่าที่’ ก็แซวอีกว่า อีกไม่นานน่าจะขายออกแน่ ...ย๊าง...ยังไม่หมดแค่นั้น บางคนหาว่าฉันทำอาหารยั่วน้ำลายช่วงถือศีลอดอีก นอกจากนี้ยังมีคนถามเข้ามาอีกว่า “ทำได้จริงๆ หรือ” ฉันเองก็แค่อยากกระซิบบอกทุกทนเบาๆ ผ่านภาพเมนูอาหารหลายๆจานที่ผ่านมาว่า ทุกคนก็เป็นแม่ครัวได้ ถ้าเราอยากจะทำจริงๆ 
        ฉันโตมาในครอบครัวที่นานทีปีหนจะซื้อแกงถุง คุณแม่กับพี่สาวมักทำกับข้าวให้สมาชิกในครอบครัวรับประทานกันทุกวัน เรียกว่าเปิดฝาชีก็มีอาหารเตรียมพร้อม บางทีจะเดินทางไปไหน แม่ยังจะแพ็คข้าวและกับข้าวไปด้วยจากบ้าน เหมือนกับเป็นปิคนิคเล็กๆ ระหว่างการเดินทางของครอบครัว จึงไม่น่าแปลกเลยที่ช่วงระหว่างการทำอาหารทานเองของฉันจึงเปรียบเสมือนเป็นการบรรเทาอาการคิดถึงบ้าน ทุกมื้อที่ฉันทำ มันจึงมีความรู้สึกโหยหาบรรยากาศอบอุ่นที่ลอยอยู่ท่ามกลางไอกรุ่นของอาหารในยามที่สมาชิกในครอบครัวล้อมวงรับประทานอาหารด้วยกันอย่างไม่ต้องสงสัย  

3

        “ก๊ะอยากมีลูกไหม”
        อยู่ๆ ฉันก็โพล่งคำถามแปลกๆขึ้นมาถามพี่สาวคนหนึ่งอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เธอมักจะมาทานอาหารละศีลอดกับฉันที่หอในช่วงรอมฎอนที่ผ่านมา เธอทำหน้างงๆ ยิ้มน้อยๆ แล้วถามฉันกลับมาว่า
        “ทำไมอยู่ๆ ถึงถามขึ้นมาล่ะ”
        “ตอบมาเหอะน่า” ฉันไม่สนคำถามของเธอ ยังดึงดันจะให้เธอตอบคำถามเดิม
       “จริงๆ ถ้าแต่งงานก็อยากมีลูกเลยเหมือนกันนะ แต่ก็กังวลเหมือนกัน ถ้าเขาเกิดมา จะให้เขากินอะไรดี อยากดูแลเขาให้ดี เลี้ยงเขายังไงให้เป็นคนดี”
...
        ฉันเงียบไม่พูดต่อ นึกในใจ
        ‘ลูก’ นี่เป็นใครกันหนอ ขนาดยังไม่เคยเจอกันเลย เรายังรักเขา อยากทำอะไรดีเพื่อเขาขนาดนี้...
        ความคิดถึงแม่ของฉัน ดูจะตัวโตขึ้นเรื่อยๆ

EAST – WEST, HOME’S BEST. : ที่ไหนๆ ก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา
ENGLISH BETWEEN THE LINES : ภาษาอังกฤษระหว่างบรรทัด

My mom’s cuisine has no MSG
but it’s more delicious than any other dishes.
Perhaps, love is her flavor enhancer.

I really miss my mom’s and sister’s cooking.
One day, I’d be right back.

I realize that we might not be together every day in life. And to this day,
even I have walked far from your womb,
I know there’s a link between us.
The distance hasn’t lessened the love between us, mom

•    MSG = monosodium glutamate = ผงชูรส
•    flavor enhancer = เครื่องชูรส
•    womb =   ครรภ์
•   dish ไม่ได้มีความหมายแค่ภาชนะใส่อาหารที่เราเรียกว่าจานอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ ยังหมายถึง เมนู อาหารเมนูได้เมนูหนึ่งก็ได้ค่ะ เช่น vegetarian dish = เมนูมังสวิรัติ เป็นต้น
•   ในบทแปลข้างต้น ใช้โครงสร้างประโยคแบบ Present Prefect อยู่หลายที่ เพื่อเป็นการแสดงชัดถึงระยะห่างระหว่างเวลาว่าเหตุการณ์มันยังคงดำเนินอยู่จากวันนั้นถึงวันนี้ ลักษณะเด่นของโครงสร้างประโยคแบบนี้ คือ กริยาของประโยคที่เป็น Vto have + V3 ดังตัวอย่างค่ะ          
  • I have walked far from your womb.       
  • The distance hasn’t lessened the love between us.

 STORY BY : ตีกุฮ์  บือแน